เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวเกี่ยวกับการอัปเดต Windows ที่ส่งผลให้ระบบ Dual-Boot ซึ่งติดตั้ง Windows และ Linux พร้อมกันเสียหาย ล่าสุดทาง Microsoft ได้ออกมายืนยันปัญหานี้และสัญญาว่าจะตรวจสอบแก้ไขโดยเร็ว
การแจ้งเตือนที่โพสต์ในเอกสาร Windows อย่างเป็นทางการยืนยันว่าการติดตั้งอัปเดต Patch Tuesday ประจำเดือนสิงหาคม 2024ส่งผลให้เกิดข้อความแสดงข้อผิดพลาดต่อไปนี้เมื่อพยายามเปิดใช้งานระบบ Dual-Boot:
"การตรวจสอบข้อมูล shim SBAT ล้มเหลว: มีการละเมิดนโยบายความปลอดภัย มีบางอย่างผิดพลาดอย่างร้ายแรง: การตรวจสอบ SBAT ด้วยตนเองล้มเหลว: มีการละเมิดนโยบายความปลอดภัย"
สาเหตุของปัญหานี้เกิดจากการตั้งค่า Secure Boot Advanced Targeting (SBAT) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อบล็อก boot managers รุ่นเก่าที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งไม่ควรใช้งานกับระบบ Dual-Boot แต่กลับถูกนำไปใช้งานเนื่องจากการตรวจจับ Dual-Boot ล้มเหลว Microsoft ชี้แจงว่า
"การอัปเดต SBAT นี้จะไม่ถูกนำไปใช้กับอุปกรณ์ที่ตรวจพบว่ามีการ Dual-Boot แต่ในบางอุปกรณ์ ระบบตรวจจับ Dual-Boot ไม่สามารถตรวจพบวิธีการ Dual-Boot แบบกำหนดเองบางรูปแบบได้ จึงทำให้ค่า SBAT ถูกนำไปใช้โดยที่ไม่ควรนำไปใช้"
เพื่อเป็นการแก้ปัญหาชั่วคราวทาง Microsoft ขอแนะนำให้ผู้ใช้ที่มีระบบ Dual-Boot ระหว่าง Windows และ Linux ไม่รีสตาร์ท Windows เพื่อติดตั้งอัปเดต August Patch Tuesday นี้ โดยสามารถใช้คีย์ registry เพื่อป้องกันไม่ให้อัปเดตดังกล่าวติดตั้งได้ ดังนี้:
reg เพิ่ม HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Control\SecureBoot\SBAT /v ยกเลิกการเลือก /d 1 /t REG_DWORD
นอกจากนี้ยังมีหัวข้อฟอรั่มเกี่ยวกับการเพิกถอน SBATซึ่งสามารถช่วยแก้ไขระบบที่เสียหายอยู่แล้วได้
ปัญหาส่งผลต่อรุ่นไคลเอนต์และเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับทั้งหมดของ Windows 10 และ 11 ตั้งแต่ Windows Server 2012 และ Windows 10 2015 LTSB ไปจนถึง Windows 11 เวอร์ชัน 23H2 และ Windows Server 2022
สรุป
Microsoft ยืนยันว่าการอัปเดต August Patch Tuesday ทำให้ระบบ Dual-Boot ที่ติดตั้ง Windows และ Linux เสียหาย เนื่องจากการตั้งค่า SBAT ที่บล็อก boot managers เก่า ซึ่งไม่ควรนำมาใช้กับระบบ Dual-Boot แต่เกิดความผิดพลาดในการตรวจจับระบบ Microsoft สัญญาว่าจะแก้ไขปัญหานี้โดยเร็ว
ที่มา neowin
