ในงาน LINE CONFERENCE THAILAND 2025 (LCT25) ที่จะจัดขึ้นในปีนี้ LINE ประเทศไทยประกาศเปิดตัว 3 บริการใหม่ที่จะมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกดิจิทัล โดยเน้นการตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้งานทั้งในแง่ของการทำงานและไลฟ์สไตล์ เพื่อสร้างความ “WOW!” ให้แก่ผู้ใช้งาน พร้อมกับการยกระดับแพลตฟอร์มให้แข็งแกร่งและเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้นตามพันธกิจใหม่ “Create an amazing life platform that brings WOW! to our users”
บริการใหม่ทั้งสามจะเปิดตัวในปี 2568 นี้ โดยมาพร้อมกับฟีเจอร์และบริการที่คัดสรรมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ในประเทศไทยโดยเฉพาะ:
1. LINE PREMIUM: ระบบสมาชิกเพื่อความพิเศษยิ่งขึ้น
LINE PREMIUM เป็นบริการสมาชิกที่คิดค่าบริการเดือนละ 169 บาท มาพร้อมกับฟีเจอร์พิเศษที่ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งประสบการณ์การใช้งานได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนไอคอนแอปฯ การเปลี่ยนฟอนต์ หรือการสร้าง Sub Profile จำนวน 3 บัญชีที่สามารถตั้งชื่อและเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ให้เหมาะสมกับกลุ่มเพื่อนแต่ละกลุ่ม เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่หลากหลายและตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกบทบาท นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Message Backup ที่ช่วยเก็บรักษาข้อความ รูปภาพ ไฟล์เอกสาร และวิดีโอได้แบบไม่มีวันหมดอายุ พร้อมพื้นที่จัดเก็บสูงสุดถึง 100 GB พร้อมสิทธิพิเศษจาก LINE SHOPPING และ LINE MAN
2. LINE GIFT: การมอบของขวัญในโลกดิจิทัล
LINE GIFT เป็นบริการ e-Gifting ที่ได้รับความนิยมจากญี่ปุ่นและไต้หวัน โดยการมอบของขวัญผ่าน e-Voucher ทำให้การเลือกและส่งของขวัญเป็นเรื่องง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ Social Gifting ผู้ใช้สามารถเลือกสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำและส่งให้เพื่อนผ่านหน้าแชต LINE ได้ทันที พร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้รับสามารถปรับขนาดและสีของสินค้าได้ตามต้องการ หรือเลือกสินค้าจาก Wishlist ของเพื่อนได้ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งเวลาในการส่งของขวัญในวันที่สำคัญได้อีกด้วย
3. LINE HEALTH: สุขภาพออนไลน์ครบวงจร
LINE HEALTH เป็นบริการใหม่ที่เปิดตัวในระยะทดลอง โดยมีจุดประสงค์เพื่อเชื่อมต่อผู้ใช้กับบริการทางการแพทย์ออนไลน์ เพื่อลดข้อจำกัดของผู้ที่อยู่ไกลจากโรงพยาบาลหรือไม่สะดวกในการเดินทาง โดยร่วมมือกับ Health At Work ที่ให้บริการดูแลสุขภาพโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและ OOCA ที่ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตออนไลน์ นอกจากนี้ LINE Health ยังจะขยายบริการ Health Shop ศูนย์รวมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่ครบครันผ่านแพลตฟอร์มเดียว
กลยุทธ์ IP Business: โอกาสธุรกิจใหม่
นอกจากการเปิดตัวบริการใหม่แล้ว LINE ยังได้เปิดเผยกลยุทธ์ IP Business โดยการร่วมมือกับ IPX (LINE FRIENDS) และ LINE WEBTOON ที่จะขยายโอกาสทางธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งทั้งสองบริษัทจะนำเสนอคาแรกเตอร์และคอนเทนต์จาก LINE FRIENDS และ LINE WEBTOON สู่การสร้างความร่วมมือกับแบรนด์ในไทย โดยมีแผนที่จะเปิดโอกาสให้พาร์ทเนอร์ได้ร่วมงานกับแบรนด์ต่าง ๆ ในรูปแบบต่าง ๆ
LINE MINIAPP: แพลตฟอร์มใหม่สำหรับนักพัฒนา
อีกหนึ่งไฮไลท์จากงาน LCT25 คือการเปิดตัว LINE MINIAPP ที่ช่วยให้การพัฒนาแอปพลิเคชันบน LINE เป็นเรื่องง่าย โดยนักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันของตัวเองบน LINE ได้โดยไม่ต้องใช้ทรัพยากรสูง พร้อมเปิดตัว LINE DEVELOPER PARTNER โปรแกรมส่งเสริมศักยภาพนักพัฒนาทั่วไทย เพื่อให้การพัฒนาบริการและโซลูชันบนแพลตฟอร์ม LINE เป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
สรุป
LINE ประเทศไทยได้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เข้าถึงผู้ใช้ทุกกลุ่มด้วยบริการที่ครอบคลุมทั้งการใช้ชีวิตและการทำงาน ผ่านบริการใหม่ๆ ที่จะเปิดตัวในปี 2568 และแผนกลยุทธ์ในอนาคตที่จะช่วยเสริมศักยภาพทั้งในด้านสุขภาพ การให้ของขวัญ และการพัฒนาแอปพลิเคชัน พร้อมกับการขยายโอกาสทางธุรกิจผ่าน IPX และ LINE WEBTOON ทั้งหมดนี้จะช่วยยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งานและส่งเสริมธุรกิจในประเทศไทยให้เติบโตไปพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ของ LINE
ที่มา marketingoops