Google ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ "Deep Research" ใน Gemini Advanced ให้กับผู้ใช้ Google Workspace ที่มีสิทธิ์ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การค้นคว้าข้อมูลที่ซับซ้อนกลายเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว โดยสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจากแหล่งข้อมูลจำนวนมากและสรุปออกมาเป็นรายงานที่อ่านง่ายภายในเวลาไม่กี่นาที
Deep Research คืออะไร?
Deep Research เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นคว้าข้อมูลเชิงลึกในหัวข้อต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาศัย AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลจากเว็บ และสรุปผลออกมาเป็นรายงานที่ครอบคลุม ซึ่งสามารถส่งออกไปยัง Google Docs และแชร์กับเพื่อนร่วมงานได้ทันที
การใช้งาน Deep Research มีประโยชน์อย่างไร?
Deep Research เหมาะสำหรับการใช้งานในหลายด้าน เช่น:
- การวิจัยอุตสาหกรรม: วิเคราะห์แนวโน้มล่าสุด เช่น เทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ยั่งยืน เพื่อช่วยในการวางแผนธุรกิจ
- การวิจัยการแข่งขัน: รวบรวมข้อมูลคู่แข่ง และวิเคราะห์โอกาสในการตั้งธุรกิจใหม่
- การวิจัยลูกค้า: ช่วยพนักงานขายเตรียมพร้อมสำหรับการพบปะลูกค้าโดยสรุปข้อมูลผลิตภัณฑ์และสถานการณ์ตลาด
- การวิจัยทางการศึกษา: ช่วยนักการศึกษาค้นคว้าและจัดทำข้อเสนอขอทุน วางแผนบทเรียน และจัดทำโปรเจกต์การเรียนการสอน
ใช้การวิจัยเชิงลึกเพื่อติดตามแนวโน้มอุตสาหกรรมล่าสุดก่อนการประชุมกับลูกค้าเป้าหมาย
ทำไมต้องใช้ Deep Research?
การวิจัยข้อมูลในเชิงลึกมักใช้เวลานาน ตั้งแต่การวางแผน ค้นหา อ่าน วิเคราะห์ ไปจนถึงการจัดทำรายงาน ซึ่งอาจเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและใช้เวลาหลายชั่วโมง แต่ด้วย Deep Research คุณสามารถลดระยะเวลาการทำงานเหล่านี้ลงได้อย่างมาก ระบบจะช่วยค้นหาข้อมูลจากแหล่งที่เกี่ยวข้อง วิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ และสร้างรายงานที่ครอบคลุมได้ภายในไม่กี่นาที ทำให้คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
เลือกโมเดลการทำงานของ Gemini ตามความต้องการของคุณ
Gemini Advanced มีโมเดลให้เลือกหลายแบบตามลักษณะการใช้งาน:
- 2.0 Flash: เหมาะสำหรับงานทั่วไป เช่น การระดมความคิดและเขียนเนื้อหา
- 2.0 Flash Thinking Experimental: เหมาะสำหรับการวางแผนโครงการที่ต้องใช้การคิดเป็นขั้นตอน (โมเดลทดลอง)
- 2.0 Pro Experimental: เหมาะสำหรับงานที่ซับซ้อน (โมเดลทดลอง)
- 1.5 Pro with Deep Research: เหมาะสำหรับการวิจัยเชิงลึก เช่น การวิจัยอุตสาหกรรม การวิจัยการแข่งขัน และการวิจัยทางการศึกษา
วิธีการใช้งาน
- ไปที่แอปเว็บ Gemini Advanced
- เลือกเมนูแบบเลื่อนลงเป็น "1.5 Pro พร้อมการวิจัยเชิงลึก"
- ป้อนคำถามที่ต้องการค้นคว้า
- ตรวจสอบและปรับแผนการวิจัยตามต้องการ
- รับรายงานฉบับสมบูรณ์ที่มีลิงก์ไปยังแหล่งข้อมูลต้นทาง
ใครสามารถใช้งานได้บ้าง?
Deep Research เปิดให้ใช้งานใน Gemini Advanced สำหรับผู้ใช้ Google Workspace ที่สมัครแพ็กเกจดังต่อไปนี้:
- Business Standard และ Plus
- Enterprise Standard และ Plus
- ลูกค้า Gemini Education และ Gemini Education Premium
- ลูกค้าที่ซื้อบริการเสริม Gemini Business* และ Gemini Enterprise*
(*ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2025 Google จะหยุดจำหน่ายส่วนเสริม Gemini Business และ Gemini Enterprise)
เริ่มต้นใช้งานได้เมื่อไหร่?
Google จะทยอยเปิดให้ใช้งาน Deep Research บนเว็บตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2025 เป็นต้นไป โดยเริ่มต้นรองรับภาษาอังกฤษก่อน และจะเปิดให้ใช้งานในแอปมือถือ Gemini ในอนาคต
สรุป
ฟีเจอร์ Deep Research ของ Google Gemini Advanced เป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับนักวิจัย นักธุรกิจ นักการศึกษา และผู้ที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้อย่างรวดเร็ว ฟีเจอร์นี้ช่วยลดเวลาในการค้นคว้า วิเคราะห์ และจัดทำรายงานให้เหลือเพียงไม่กี่นาที เตรียมพร้อมใช้งานได้แล้วใน Google Workspace!
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่นี้ได้จาก Workspace Updates