DeepSeek R1: ก้าวใหม่ของ AI จีน ที่ท้าชน OpenAI ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก

DeepSeek R1: ก้าวใหม่ของ AI จีน ที่ท้าชน OpenAI ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก


วงการปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังจับตามอง DeepSeek R1 โมเดล AI โอเพนซอร์สตัวใหม่จากสตาร์ทอัพจีน DeepSeek ที่ถูกพัฒนาให้สามารถแข่งขันกับ ChatGPT o1 ของ OpenAI ได้อย่างสูสี แต่จุดแข็งของ R1 คือการใช้ทรัพยากรที่น้อยกว่ามาก ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักพัฒนาและนักวิจัยที่มีทรัพยากรจำกัด โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา

ฝ่าวิกฤตการคว่ำบาตร สู่การสร้างนวัตกรรม

แม้ว่าจีนจะเผชิญกับมาตรการควบคุมการส่งออกชิปประมวลผลจากสหรัฐฯ ซึ่งจำกัดการเข้าถึงฮาร์ดแวร์ขั้นสูง แต่ DeepSeek สามารถพลิกสถานการณ์และพัฒนา R1 โดยอาศัยประสิทธิภาพที่สูงขึ้น แทนที่จะพึ่งพาฮาร์ดแวร์ระดับสูง ด้วยการออกแบบกระบวนการฝึกฝนใหม่ให้ใช้ทรัพยากร GPU อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด แม้จะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ โมเดลนี้ยังสามารถทำงานได้ดีในด้านที่ต้องการการให้เหตุผลขั้นสูง เช่น คณิตศาสตร์และการเขียนโค้ด

DeepSeek R1: ก้าวใหม่ของ AI จีน ที่ท้าชน OpenAI ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก

DeepSeek R1 ใช้แนวทางใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

R1 ใช้แนวคิด "chain of thought" คล้ายกับที่ ChatGPT ใช้ ซึ่งช่วยให้โมเดลสามารถแก้ปัญหาได้เป็นขั้นตอนแบบเป็นระบบ สิ่งที่น่าประทับใจคือทีมพัฒนาเลือกให้ R1 เน้นไปที่การให้คำตอบที่ถูกต้องมากกว่าการลงรายละเอียดทุกกระบวนการทางตรรกะ ทำให้สามารถลดเวลาในการคำนวณ แต่ยังคงไว้ซึ่งความแม่นยำและประสิทธิภาพสูง

แนวโน้ม AI โอเพนซอร์สในจีน ขยายตัวอย่างรวดเร็ว

ไม่เพียงแค่ DeepSeek เท่านั้นที่หันมาใช้โมเดลโอเพนซอร์ส Alibaba Cloud ได้เปิดตัวโมเดล AI กว่า 100 โมเดล รองรับถึง 29 ภาษา และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลายด้าน รวมถึงการเขียนโค้ดและคณิตศาสตร์ ขณะที่บริษัท AI สตาร์ทอัพอื่นๆ เช่น Minimax และ 01.AI ก็กำลังเผยแพร่โมเดลของตนเองให้กับสาธารณะ

จากรายงานของ China Academy of Information and Communications Technology (CAICT) พบว่า ขณะนี้มีโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) กว่า 1,328 โมเดลทั่วโลก โดย 36% มาจากจีน ทำให้จีนเป็นผู้พัฒนา AI รายใหญ่อันดับสองของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา

DeepSeek R1: ก้าวใหม่ของ AI จีน ที่ท้าชน OpenAI ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก

อนาคตของ AI จีนและความท้าทายข้างหน้า

การควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ได้สร้างแรงกดดันให้จีนต้องใช้ทรัพยากรการคำนวณอย่างคุ้มค่ามากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างบริษัท AI ของจีนเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนา นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการรวมพลังครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรม AI ของจีน ยกตัวอย่างเช่น การที่ Alibaba Cloud ร่วมมือกับ 01.AI เพื่อจัดตั้ง "ห้องปฏิบัติการโมเดลขนาดใหญ่ภาคอุตสาหกรรม" ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการพัฒนา AI ในอนาคต

สรุป: DeepSeek R1 เปลี่ยนเกมวงการ AI ได้หรือไม่?

DeepSeek R1 ถือเป็นก้าวสำคัญของจีนในการแข่งขันกับบริษัท AI ระดับโลก แม้จะมีข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์และการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ แต่การพัฒนาโมเดลที่เน้นประสิทธิภาพและต้นทุนต่ำ ทำให้จีนสามารถผลักดัน AI ไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการ AI ที่อาจทำให้จีนขึ้นมาเป็นผู้นำเทคโนโลยีในอนาคต

 

ที่มา technologyreview


Samsung อัพเดตแอป Try Galaxy ให้ iPhone 2 เครื่องต่อกันได้ เพื่อลองสัมผัสประสบการณ์ Galaxy Z Fold5
Samsung Electronics ประกาศเปิดตัวการอัปเดตสำหรับแอป "Try Galaxy" ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ที่ไม่ใช่สมาร์ทโฟน Androidสามารถทดสอบ One UI 5.1.1 ที่ใช...
Apple Vision Pro AR ที่จะเปิดตัวต้นปี 2024 ราคา 3,499 ดอลลาร์ หรือประมาณ 120,000 บาท
ในระหว่างงานWWDC 2023ในที่สุด Apple ก็ประกาศชุดหูฟังความจริงเสริมอย่างเป็นทางการ โดยบริษัทเรียกมันว่าApple Vision Proและจะอนุญาตให้เจ้าของโต้ตอบกับแ...
VMware Workstation Pro (ฟรี) แก้ไขปัญหา Windows 11 ค้าง บูตเครื่องไม่ติด และอื่นๆ อีกมากมาย
Broadcom ได้ประกาศเปิดตัวอัปเดต VMware Workstation Pro เวอร์ชัน 17.6.3 ซึ่งมาพร้อมกับการแก้ไขข้อบกพร่องที่สำคัญ รวมถึงการปรับปรุงความเสถียรและการอุด...

Invoice
024609292
Line
Company