Microsoft ได้ประกาศว่า Windows 11 เวอร์ชัน 23H2 ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในปลายปีนี้ จะรองรับไฟล์ RAR แบบเนทีฟ ผู้ใช้จะสามารถเปิดและแตกไฟล์ RAR ได้โดยไม่ต้องใช้ซอฟต์แวร์ของบุคคลที่สาม เช่น WinRAR หรือ 7-Zip การสนับสนุน RAR แบบเนทีฟขับเคลื่อนโดยโครงการโอเพ่นซอร์ส libarchive ซึ่งรองรับรูปแบบไฟล์เก็บถาวรและอัลกอริธึมการบีบอัดที่หลากหลาย รวมถึง RAR, 7-ZIP, TAR และ GZ
ไมโครซอฟต์ระบุว่าการรองรับ RAR แบบเนทีฟจะปรับปรุงประสิทธิภาพและประสบการณ์การใช้งานสำหรับผู้ใช้ โดยผู้ใช้จะสามารถเปิดและแตกไฟล์ RAR ได้อย่างราบรื่นและรวดเร็วยิ่งขึ้น
การทดสอบประสิทธิภาพพบว่า File Explorer ของ Windows 11 ช้ากว่า WinRAR และ 7-Zip มากในการแตกไฟล์ RAR และ 7Z โดยนักเขียนเทคโนโลยีได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพเพื่อเปรียบเทียบความเร็วในการแตกไฟล์ RAR และ 7Z ของ File Explorer ของ Windows 11 กับ WinRAR และ 7-Zip ผลการทดสอบพบว่า File Explorer ช้ากว่า WinRAR และ 7-Zip มาก
ในผลการทดสอบบนพีซีเดสก์ท็อปที่ใช้ Ryzen 5 2600, 32GB DDR4-3200 และ Samsung 980 SSD 500GB File Explorer ใช้เวลาเกือบหกนาทีในการแตกไฟล์ RAR 1.2GB ในขณะที่ WinRAR และ 7-Zip ใช้เวลาประมาณ 80 วินาทีและ 100 วินาทีตามลำดับ
ในผลการทดสอบบนแล็ปท็อปที่ใช้ Intel Core i3-1125G4, 16GB DDR4-3200 และ 500GB NVMe SSD File Explorer ใช้เวลาเกือบเก้านาทีในการแตกไฟล์ RAR 1.2GB ในขณะที่ WinRAR และ 7-Zip ใช้เวลาประมาณ 120 วินาทีและ 150 วินาทีตามลำดับ
การทดสอบยังพบว่า File Explorer ของ Windows 11 ไม่รองรับคุณสมบัติบางอย่างของ WinRAR และ 7-Zip เช่น ความสามารถในการสร้างไฟล์ RAR, การตั้งค่าการบีบอัดขั้นสูง และการสนับสนุนภาษาเพิ่มเติม
บทสรุป
การรองรับ RAR แบบเนทีฟใน Windows 11 เป็นคุณสมบัติที่ดีสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการเปิดและแตกไฟล์ RAR โดยไม่ต้องใช้ซอฟต์แวร์ของบุคคลที่สาม อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ที่ต้องการคุณสมบัติขั้นสูงหรือประสิทธิภาพที่ดีกว่าอาจต้องการใช้ WinRAR หรือ 7-Zip
ที่มา neowin