Blockchain ในแบบที่คนไทยวันนี้จะได้ประโยชน์(คนทำงานต่างประเทศอ่าน!)

Blockchain ในแบบที่คนไทยวันนี้จะได้ประโยชน์(คนทำงานต่างประเทศอ่าน!)

          คุณอาจจะเข้าใจ เทคโนโลยี Blockchain ดีขึ้นเมื่อมีค่ายธนาคารใหญ่ของไทยประกาศมั่นใจในการใช้งานอย่างเต็มรูปแบบแล้ว!!!

          ดูเหมือนช่วงนี้ SCB ปรับตัวกระเพื่อมหลายระลอกนอกจาก แอพSCB Easyที่โฉมใหม่สะใจผู้ใช้จนชมกันออกนอกหน้า ยังมีนวัตกรรมมาใหม่ มาแรงด้วย!!! สั้นๆ ถ้ายังไม่รู้…Blockchain คืออะไร?

          ปกติแล้วชีวิตเราจะซื้อของอะไรก็มักต้องผ่านคนกลางเสมอๆ ถ้าจะซื้อของก็ต้องเดินเข้าห้างหรือร้านสะดวกซื้อ น้อยครั้งมากที่เราจะไปซื้อจากผู้ผลิตโดยตรง แน่นอนว่ากว่าของจะมาถึงมือเราก็ต้องเสียเวลาผ่านหลายขั้นตอน  ซึ่งพ่อค้าเองก็บวกกำไรเข้าไป ถ้าเราเจอและซื้อของกับผู้ผลิตโดยตรงก็จะดีกว่ามาก ได้ของเร็วขึ้นในราคาที่ถูกลง

แล้วยังไงกับวงการธนาคาร?

          ในแวดวงการเงินเองก็เป็นเหมือนกัน เรามีธนาคารเป็นตัวกลางในการฝากถอนโอน โดยธนาคารเองจะทำหน้าที่ตรวจสอบและรับรองความถูกต้องก่อน จากนั้นถึงจะมีการเคลื่อนย้ายเงิน แต่ระบบเองมีจุดอ่อนหลายอย่าง เช่น ความล่าช้าในการทำธุรกรรมโดยเฉพาะการทำข้ามธนาคาร บางเคสต้องรอข้ามวันถึงจะได้เงิน รวมถึงค่าธรรมเนียมต่างๆที่เกิดขึ้น

          แม้ทุกวันนี้เราจะหันมาทำธุรกรรมการเงินผ่านแอปหรือ e-banking มากขึ้น ก็ยังเจอปัญหาเดิมๆอยู่ดี บริษัทต่างๆก็เริ่มค้นหาว่ามีเทคโนโลยีอะไรบ้างที่ทำให้เราทำธุรกรรมออนไลน์ได้อย่างอิสระและรวดเร็วขึ้น รวมถึงลดค่าใช้จ่าย จนเกิดเป็นเทคโนโลยี Blockchain ขึ้นมา!!! ฉะนี้!!!

Blockchain ในแบบที่คนไทยวันนี้จะได้ประโยชน์(คนทำงานต่างประเทศอ่าน!)

Blockchain

          ก็คือศัพท์ทางเทคนิคที่พูดถึงเทคโนโลยีการเก็บข้อมูลแบบใหม่ ที่ตัดคนกลางออกไป นำข้อมูลมาเก็บไว้ที่ทุกคนที่อยู่ในระบบ เชื่อมต่อผู้ใช้ทุกคนเหมือนห่วงโซ่ เกิดความโปร่งใส

          เห็นข้อมูลเหมือนกันหมด เวลาจะทำธุรกรรมอะไรเกิดขึ้น ทุกคนในเครือข่ายจะรู้ทันที แอบไปมุบมิบทำกันเองสองคนไม่ได้ แถมธุรกรรมใหม่ที่เกิดนั้น จะสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อคนในเครือข่ายยอมรับความถูกต้อง

          จุดเด่นที่ทำให้หลายคนยอมรับ คือเมื่อข้อมูลถูกบันทึกแล้วจะไม่สามารถเข้าไปแก้ไขดัดแปลงข้อมูลได้เลย ตัดปัญหาปลอมแปลงข้อมูล แถมสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้หมด ว่าใครโอนเงินให้ใครบ้าง ทำให้มีความน่าเชื่อถือสูงมากด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Bloclchain ได้ถูกนำมาใช้กับการแลกเปลี่ยนซื้อขายเงินสกุลดิจิทัลอย่าง Bitcoin หรือธุรกรรมทางการเงินอื่นๆเพื่อให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น

Blockchain ในแบบที่คนไทยวันนี้จะได้ประโยชน์(คนทำงานต่างประเทศอ่าน!)

เข้าเรื่องใหม่ในวันนี้คะ…Ripple Blockchain

          เทคโนโลยี Blockchain ทำให้เกิดบริษัทสตาร์ทอัพน้องใหม่ที่นำเทคโนโลยีนี้มาต่อยอดเป็นบริการทางการเงินใหม่ๆมากมาย หนึ่งในสตาร์ทอัพที่มาแรงในแวดวง Fintech ก็คือ Ripple จากอเมริกาที่นำ Blockchain มาใช้ด้านการโอนเงินระหว่างประเทศ โดยมุ่งนำเทคโนโลยี Blockchain นี้ไปที่กลุ่มธนาคารและสถาบันการเงินเชื่อมต่อธนาคารเข้าด้วยกันโดยตรงเพื่อแก้ปัญหาแบบเดิมๆที่เคยเจอ  แนวคิดนี้เรียกว่าไปเข้าตาบริษัท Venture Capital และนักลงทุน เพิ่งได้รับเงินลงทุน Series B มากถึง 55 ล้านดอลล่าร์ในปีที่ผ่านมา

          ปัจจุบันทาง Ripple มีเครือข่ายธุรกรรมการเงินเชื่อมโยงกับธนาคารชั้นนำของโลก อาทิ Standard Chartered, Royal Bank of Canada (RBC), Westpac, National Australia Bank (NAB), Mizuho Financial Group (MHFG), BMO Financial Group และ Shanghai Huarui Bank ซึ่งต่างมีการนำเทคโนโลยี Blockchain นี้มาพัฒนาบริการการโอนเงินระหว่างประเทศด้วย

Blockchain ในแบบที่คนไทยวันนี้จะได้ประโยชน์(คนทำงานต่างประเทศอ่าน!)

ความเคลื่อนไหว Blockchain ในไทยบ้างค่ะ

          เทคโนโลยี Blockchain ในไทยนั้นถือว่าเป็นเรื่องใหม่แต่สร้างความตื่นตัวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารและสถาบันการเงิน เพราะพวกเค้ามองเห็นว่าจะมาพลิกโฉมการทำธุรกรรมให้ต่างจากเดิม รวมถึงเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้บริการธนาคาร หากใครไม่รีบปรับตัวอาจจะสายเกินไป

         ซุ่มเงียบ แต่โผล่มากินเรียบนะจ้ะ!!!หนึ่งในองค์กรที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับ Fintech เป็นอย่างมาก นั่นก็คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ได้มีการเปิดบริษัทใหม่ ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด เพื่อศึกษาค้นคว้านวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ รวมถึงไปร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพด้านเทคโนโลยีการเงินโดยเฉพาะ

          ด้วยวิสัยทัศน์นี้ทำให้ ธนาคารไทยพาณิชย์กลายเป็นธนาคารแห่งแรกในไทยที่นำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้สำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ เพื่อพัฒนาและสร้างเสถียรภาพให้กับการโอนเงินข้ามประเทศผ่านระบบออนไลน์ที่สะดวก รวดเร็ว ลดระยะเวลาดำเนินการ ลดค่าใช้จ่าย และมั่นใจได้ในความปลอดภัยในโลกการเงินแห่งยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบผ่านเทคโนโลยีของ Ripple เรียกว่าเป็นก้าวสำคัญของไทยพาณิชย์ในการมุ่งสร้างระบบนิเวศทางการเงินยุคใหม่ (FinTech Ecosystem) โดยมีเทคโนโลยีเป็นแรงขับเคลื่อน…ประมาณนั้นเชียว

          ในขณะเดียวกันก็ได้สร้างความรู้และความเข้าใจพื้นฐานให้กับประชาชนและว่าจะมีความสำคัญและบทบาทอย่างไรในการทำธุรกรรมออนไลน์ในภาคการเงินและภาคธุรกิจต่างๆ

Blockchain ในแบบที่คนไทยวันนี้จะได้ประโยชน์(คนทำงานต่างประเทศอ่าน!)

ทำงานอยู่ญี่ปุ่น โอนเงินระหว่างญี่ปุ่นกับไทยได้แล้ว!!!ทางนี้เลย!!!

          ล่าสุดธนาคารไทยพาณิชย์ประกาศความร่วมมือกับ SBI Remit บริษัทของญี่ปุ่นในการนำเทคโนโลยี blockchain ของ Ripple มาให้บริการโอนเงินระหว่างไทยและญี่ปุ่นกับลูกค้ารายย่อย ถือเป็นครั้งแรกของเอเชีย ช่วยให้การโอนเงินง่ายและสะดวกขึ้นในแบบ Real-time

          ปัจจุบันมีคนไทยอาศัยและทำงานที่ญี่ปุ่นประมาณ 40,000 คน ซึ่งคนกลุ่มนี้จะส่งเงินกลับไทยเป็นประจำ เป็นแหล่งสร้างรายได้กลับประเทศที่สำคัญถึงปีละ 250 ล้านดอลล่าร์ ถือว่าเป็นส่วนสำคัญยุคไทยแลนด์ 4.0…นะคะ ฟังไว้

          ในระยะแรกนั้นจะ ทดสอบให้บริการโอนเงินเยนจากญี่ปุ่นมายังไทย เพื่อเข้าบัญชีออมทรัพย์ผ่านช่องทางสาขาและตู้เอทีเอ็มของ SBI Remit หรือที่ทำการไปรษณีย์ก็ได้ เงินจะถูกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินบาทโดย”อัตโนมัติ”ระหว่างการโอน

          อนาคตล่ะ? แน่นอนเตรียมขยายโลกไร้พรมแดน!!! ทางธนาคารไทยพาณิชย์เองก็มีแผนที่จะขยายการให้บริการโอนเงินข้ามประเทศผ่าน BLOCKCHAIN ครอบคลุมประเทศต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาคในอนาคต ทั้งอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชียแปซิฟิก

Blockchain ในแบบที่คนไทยวันนี้จะได้ประโยชน์(คนทำงานต่างประเทศอ่าน!)

ประโยชน์ที่เกิดกับผู้ใช้

          ปกติการโอนเงินระหว่างประเทศนั้นทางธนาคารต่างๆจะทำผ่านระบบตัวกลาง ซึ่งแต่ละธนาคารนั้นก็เลือกใช้ระบบที่แตกต่างกัน ซึ่งไทยนั้นจะใช้ระบบ BAHTNET การที่จะใช้ได้นั้นต้องเป็นธนาคารที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยก่อน ปัญหาที่เกิดขึ้นก็มีหลายอย่าง

          ถ้าธนาคารใช้ระบบการทำธุรกรรมที่ต่างกันจะทำให้เกิดความล่าช้าระยะเวลาในการทำธุรกรรม เพราะต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนโดยต้องทำผ่านระบบธนาคารตัวแทนต่างประเทศ (Correspondent Banking) โอนเงินไปเข้าธนาคารพันธมิตรในประเทศนั้นๆก่อน แล้วค่อยโอนเงินไปยังธนาคารที่ต้องการอีกทีนึง ส่งผลให้ธุรกรรมล่าช้า โอนวันนี้ต้องรออีก 2-3 วัน เงินถึงจะเข้าบัญชีผู้รับโอน ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้เงินอาจจะไม่ทันการณ์ แต่เมื่อนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ก็จะช่วยย่นระยะเวลาจากเดิมที่ต้องรอเป็นวันๆ เหลือแค่รอไม่กี่นาทีเท่านั้น

          การทำธุรกรรมแบบเดิมนั้นจะมีค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ การแปลงค่าเงิน ถ้าใครโอนเงินไปต่างประเทศจะรู้ดีว่า ค่าใช้จ่ายตรงนี้ถือว่าไม่ได้ถูกเลย!!! ซึ่งถ้าคุณโอนเงินจำนวนน้อยๆเนี่ยต้องบอกว่าไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายเลยค่ะ ซึ่ง Blockchain จะช่วยทุ่นค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้เยอะเลยค่ะ…

          เมื่อก่อน จุดอ่อน มีเยอะ!!!การทำธุรกรรมผ่านธนาคารนั้นมีโอกาสที่ผู้ใช้จะโดนแฮคข้อมูลหรือขโมยรหัสผ่านได้ แต่ตัวเทคโนโลยี Blockchain นั้นเรียกว่ามีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยสูง แถมยังติดตามการทำธุรกรรมได้หมดจึงทำให้ผู้ใช้มั่นใจว่าเงินจะไม่ถูกแฮคไปได้ง่าย

เข้าใจละนะ…Blockchain ในแบบที่คนไทยวันนี้จะได้ประโยชน์

 

ที่มา : https://www.dailygizmo.tv/2017/09/04/scb-blockchain-money-transfer/


วิธีใช้อีเมลอย่างมืออาชีพ
อีเมลเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวก แต่กลับเปลี่ยนเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างรวดเร็ว เมื่อผมมีอีเมลหลายร้อยฉบับที่รอการเปิดอ่าน ยิ่ง...
Compare plan
*หากต้องการส่ง attachment ที่เกินขนาดที่จำกัด สามารถส่งผ่านทาง drive ได้...
ทำไมจำนวนคำสำหรับการเขียน SEO และการจัดอันดับของ Google จึงไม่ใช่เรื่องสำคัญ?
การเขียน SEO และการจัดอันดับของ Google เป็นสิ่งสำคัญที่เราควรให้ความสนใจ เมื่อต้องการให้เว็บไซต์ของเราเป็นอันดับต้น ๆ ในผลการค้นหาของ Google ซึ่งเป็...

Invoice
024609292
Line
Company